ขอแนะนำตัวเองก่อนนะคะ
ดิฉันชื่อนางสาวสุจิตรา ยานิตย์ ชื่อเล่น ติ่ง
เป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู มีเรื่องขำๆมาเล่าให้ฟังคะ
พอดีทางโรงเรียนของเรามีครูชาวต่างชาติมาจากประเทศอังกฤษ อายุ 21 ปี
ก็เป็นที่ฮือฮาของนักเรียนเพราะเด็กๆยังไม่เคยเรียนกับครูชาวต่างชาติที่เป็นเจ้าของภาษาแท้ๆเลย
ดิฉันพูดกับเขาก็เกือบจะรู้เรื่องแต่บางทีก็ต้องพยักหน้าแล้วยิ้มเพราะบางคำฟังไม่ทันจริงๆและบางครั้งไม่เข้าใจสิ่งที่เข้าพูดด้วยเพราะพูดเร็วมาก(แบบว่าช่วงแรกๆเอ๋อเหรอเลยคะ)
มีอยู่วันหนึ่งระหว่างที่รับประทานอาหาร(กิน)เที่ยงอยู่(ครูชาวอังกฤษคนนี้กินเผ็ดไม่ได้แค่เห็นพริกเขาก็สยองแล้ว
และที่สำคัญหมูทอดประเทศไทย หน้าตาไม่เหมือนหมูทอดอังกฤษ
เขาทำหน้าตาแปลกใจและกลัวอยู่นิดหน่อย เราก็เลยให้เขาลองกินดู
ทีแรกเขาก็ไม่กินนะเห็นเขานั่งตัดสินใจได้สักครู่หนึ่งเขาก็กิน เราก็เลยถามว่า
เป็นไงบ้างเขาบอกว่า มันไม่เหมือนหมูที่บ้านเขา It isn't like pork. It
makes me scared. ทีนี้แหละหัวเราะกันลั่นเลย)
แต่ทีเด็ดอยู่ที่เรื่องของนกพิราบคือโรงเรียนเราที่อาคารสี่ชั้นสี่มีนกพิราบมาทำรังเป็นครอบครัวเลยคะอยู่มานานจนออกลูกออกหลานเต็มไปหมดเลย วันนั้นหลังจากที่รับประทานอาหาร(กิน)เที่ยงกันเสร็จ ครูชาวต่างชาติคนนี้ก็พูดขึ้นว่า Where is P'Jig? (แว อิส พี่จิ๊ก) ได้ยินว่า Where is (a) pigeon? พี่จิ๊กเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นคนดูแลครูชาวต่างชาติคนนี้ คำว่าพี่จิ๊กดันฟังผิดไปเป็นคำว่า พิจ เจิน (นกพิราบ) คือเขาออกเสียงคำว่าพี่จิ๊กไม่ชัดเลยทำให้เสียงเพี้ยนไป เพื่อนคนหนึ่งที่มาฝึกสอนด้วยกันรีบวิ่งมาบอกครูชาวต่างชาติคนนี้เเละทำท่าทางบินแบบนกพิราบประกอบการแสดงแล้วพูดว่า "Pigeons are on the fourth floor" นกพิราบอยู่บนชั้นสี่ ทีนี้แหละฮากันกระจายยกเว้นหนุ่มอังกฤษคนนั้น เขานั่งหน้างง แต่เพื่อนดิฉันหน้าแตก(จริงๆแล้วดิฉันก็ได้ยินเหมือนกันกับเพื่อน คือเข้าใจผิด ดีนะที่ไม่ได้ทำท่าบินไปบอกก่อนเพื่อน ไม่งั้นหน้าแตกหมอไม่รับเย็บแน่) ก็สรุปว่าการฟังและการสื่อสารยังต้องอาศัยการฝึกฝนบ่อยๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องขำขันกันไป จบแล้วค่ะ